นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับคู่ธุรกิจและผู้เกี่ยวข้อง

บริษัท คอร์เนลโพลิเมอร์ จำกัด (เรียกว่า“เรา”) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของคู่ธุรกิจ (รวมเรียกว่า “ท่าน”) และเพื่อให้ท่านได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงจัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อให้ทราบถึงรายละเอียดการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) รวมตลอดถึงการลบและทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ดังนี้

 

1. วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

1.1 เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของคู่ธุรกิจหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งคู่ธุรกิจเป็นคู่สัญญากับเรา

1.2 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

(1) เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามสัญญาสัญญาระหว่างคู่ธุรกิจกับเรา เพื่อการจัดซื้อ จัดจ้าง ตรวจรับ ชำระค่าสินค้าและบริการ บริหารจัดการความสัมพันธ์ ตรวจสอบและประเมินการทำงานตามข้อตกลงที่กำหนดไว้ในใบสั่งซื้อหรือสัญญาหรือเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง

(2) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา เช่น เพื่อการบริหารจัดการภายในของเรา ซึ่งรวมถึงการบริหารจัดการและพัฒนาสินค้า และ/หรือ บริการ (รวมถึงเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน) การตรวจสอบและป้องกันการฉ้อโกง หรืออาชญากรรมอื่น ๆ และการบำรุงรักษาระบบสารสนเทศ

(3) เพื่อประโยชน์ทางด้านความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงระบบไอที สารสนเทศ เช่น การเข้าสถานที่ของเรา การเข้าสู่ระบบ เข้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

(4) เพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย

1.3 เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น

1.4 เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ และคำสั่งของผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมาย

1.5 กรณีที่ท่านให้ความยินยอมเราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้

(1) เพื่อให้เรา บริษัทในเครือ และพันธมิตรส่งข่าวสารผ่านทางอีเมลล์ เอสเอ็มเอส แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย โทรศัพท์ และไดเร็กเมลล์

(2) เพื่อให้เราดำเนินการจัดกิจกรรมนอกจากที่กล่าวมาข้างต้น

ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับความยินยอมได้ในข้อ 4

 

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวม

2.1 เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อคู่ธุรกิจติดต่อ ขายสินค้า หรือให้บริการใด ๆ แก่เรา เช่น

(1) ข้อมูลนามบัตร เช่น ชื่อนามสกุล ตำแหน่งงาน เบอร์โทรศัพท์ อีเมลล์

(2) ข้อมูลที่ใช้ในการยืนยันตัวตนได้ เช่น ชื่อนามสกุล เลขที่และข้อมูลบนบัตรประชาชน รูปถ่าย

(3) ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของท่าน เช่น ข้อมูลประวัติและการปฏิบัติงาน และข้อมูลด้านความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของท่าน รวมทั้งข้อมูลบัญชีและการเงิน

2.2 เมื่อท่านเข้ามาในบริเวณพื้นที่ของเรา เราอาจเก็บภาพของท่านโดยใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิด

2.3 เมื่อท่านติดต่อเรา เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้

(1) ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีที่เกิด รูปถ่าย หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขใบขับขี่ หมายเลขหนังสือเดินทาง

(2) ข้อมูลการติดต่อ เช่น อีเมลล์ เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ หรือข้อมูลโซเชียลมีเดีย

 

3. การใช้คุกกี้

เรามีการใช้คุกกี้เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กำหนดไว้ตาม นโยบายการใช้คุกกี้ 

 

4. การขอความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการถอนความยินยอม

4.1 ในกรณีที่เราเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่านที่ให้ไว้กับเราได้ ซึ่งการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้ว

4.2 หากท่านถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับเรา อาจส่งผลให้เราไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้

 

5. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

5.1 เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทและเป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานของการเก็บรวบรวม

5.2 กรณีกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เราจะเก็บข้อมูล

(1) ในสถานการณ์ปกติ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเก็บไว้เป็นเวลา 30 วัน

(2) ในกรณีจำเป็น เช่น กรณีที่จำเป็นต้องใช้เป็นหลักฐานในการสืบสวน สอบสวน หรือการดำเนินคดี หรือกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอ ข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกเก็บรักษาไว้เกินกว่า 30 วันและบริษัทจะดำเนินการลบข้อมูลดังกล่าวอย่างปลอดภัยเมื่อเสร็จสิ้นวัตถุประสงค์นั้น ๆ แล้ว

5.3 เราจัดให้มีระบบการดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้อง

5.4 เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับความยินยอมจากท่านจนกว่าจะมีการแจ้งขอยกเลิกความยินยอม อย่างไรก็ดี เราจะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึกเป็นประวัติว่าท่านเคยยกเลิกความยินยอม เพื่อให้ เราสามารถตอบสนองต่อคำขอของท่านในอนาคตได้

 

6. การเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น

6.1 เราเปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับ

(1) บริษัทในเครือ และ

(2) บุคคลและนิติบุคคลอื่นที่ไม่ได้เป็นบริษัทในกลุ่มของเรา (“บุคคลอื่น”) เช่น ผู้ให้บริการด้านการขนส่ง (เช่น ไปรษณีย์) ผู้ให้บริการเกี่ยวกับธุรกรรมและการเงิน ผู้ให้บริการทางด้านเทคโนโลยี ผู้ให้บริการจัดทำโปรแกรมและระบบไอทีต่าง ๆ ผู้ตรวจสอบ บริษัทประกัน ที่ปรึกษา หน่วยงานของรัฐ และบุคคลอื่นที่จำเป็นเพื่อให้เราสามารถดำเนินธุรกิจและให้บริการแก่ท่าน

6.2 เราจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลจากเรามีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสม ไม่ให้ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ

 

7. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

7.1 เราอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือหรือบุคคลอื่นในต่างประเทศในกรณีที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างเรากับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน หรือเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

7.2 เราอาจเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่น และอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และจะกำหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม

7.3 ในกรณีที่มีการส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ เราจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ

 

8. มาตรการความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล

เราได้นำมาตรฐานการบริหารที่เหมาะสมมาใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการสูญหาย การเข้าถึงการใช้หรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้งานในทางที่ผิด การดัดแปลงเปลี่ยนแปลง และการทำลายโดยใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและการจำกัดการเข้าถึง เพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและบุคคลเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล และจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็น

 

9. สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ท่านมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สรุปดังนี้

(1) ถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับเราในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

(2) ขอดูและคัดลอกข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

(3) ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น

(4) คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน

(5) ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ (anonymization)

(6) ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

(7) แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

(8) ร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่เราหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของเราหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 

10. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

10.1 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล: บริษัท คอร์เนลโพลิเมอร์ จำกัด

สถานที่ติดต่อ: นิคมอุตสาหกรรมบางปู  548 หมู่ 4 ซอย 9 ถนนพัฒนา 1 ตำบลแพรกษา อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ 10280

 10.2 กรณีที่ท่านมีข้อสอบถามเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

โปรดติดต่อเบอร์ 02-323-0812-3 หรือ e-mail: personnel@cornelpolymer.com

01.06.2565